กิจกรรมการส่งเสริม SMEs เข้าสู่ระบบการผลิตดิจิทัลด้วยจรวดสามลูก ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพ SMEs ด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Value chain) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
by ธีร เจียศิริพงษ์กุล; อิศเรศ ธุชกัลยา; นภดล อุชายภิชาติ; ดุลยโชติ ชลศึกษ์; อภิวัฒน์ มุตตามระ; จักร ชวนอาษา; สวัสดิ์ ภาระราช; พิศาล แก้วประภา; สมศักดิ์ วงษ์ประดับไชย; ชลดา เหลืองอาภา; ศุภกิจ พฤกษอรุณ; อนินทยา คำกันยา; สนันตน์เขม อิชโรจน์
กิจกรรมการส่งเสริม SMEs เข้าสู่ระบบการผลิตดิจิทัลด้วยจรวดสามลูก ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพ SMEs ด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Value chain) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | |
SMEs development using three- digital-stages rocket with digital value chain in fiscal year 2020 | |
ธีร เจียศิริพงษ์กุล
อิศเรศ ธุชกัลยา นภดล อุชายภิชาติ ดุลยโชติ ชลศึกษ์ อภิวัฒน์ มุตตามระ จักร ชวนอาษา สวัสดิ์ ภาระราช พิศาล แก้วประภา สมศักดิ์ วงษ์ประดับไชย ชลดา เหลืองอาภา ศุภกิจ พฤกษอรุณ อนินทยา คำกันยา สนันตน์เขม อิชโรจน์ |
|
2564-09-15 | |
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
จากนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในประเทศไทยตามแนวคิดประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ซึ่งเป็นการประสานความสามารถของเทคโนโลยีการผลิตเข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น เพื่อให้สอดรับกับประเทศไทย 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้กำหนด 10 อุตสาหกรรม เป้าหมาย เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) และกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในฐานะหน่วยงานส่งเสริม และพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนพัฒนา SMEs ให้เข้าสู่ ประเทศไทย 4.0 ด้วยเครื่องมือ “3 Stage Rocket Approach” หรือแนวคิด “จรวด 3 ขั้น” ซึ่งเป็นการ สร้างความเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต ผ่านการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัล กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมโดยศูนย์ส่งเสริม อุตสาหกรรมจึงได้ทำการจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการวิเคราะห์และพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบอัจฉริยะ เฝ้าติดตามและตรวจสอบดูแลการทำงานของเครื่องจักร (Machine Monitoring System) และระบบตรวจสอบดูแลการปฏิบัติงานของพนักงานในสถานประกอบการ โดยกลุ่มเป้าหมายของกิจกรรม คือ วิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เป็นนิติบุคคลในภาคการผลิตรวม 80 กิจการ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม ที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (First S-curve and New S-curve) ทั้ง 20 กลุ่ม และกลุ่มอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด/กลุ่มจังหวัด ในพื้นที่เป้าหมายที่กำหนดไว้ พื้นที่ในการดำเนินงานนั้นครอบคลุมเขตจังหวัดภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร การดำเนินงานเริ่มตั้งแต่ มกราคม 2563 – พฤศจิกายน 2563 รวมระยะเวลา 290 วัน ซึ่งมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 107 กิจการ แต่ได้รับการคัดเลือกเหลือเพียง 81 กิจการ โดยแบ่งเป็น Visualize Machine 56 กิจการและ Visualize Craftsmanship 25 กิจการ ในกระบวนการวัดเก็บข้อมูลทั้ง 81 กิจการ ที่ปรึกษาใช้เซนเซอร์แบบแสงในการ นับชิ้นงานหรือการเคลื่อนที่ของเครื่องจักร เซนเซอร์วัดกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้วัดปริมาณการใช้ไฟฟ้า กล้องถ่าย วีดิโอ กล้องวงจรปิด เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ และปุ่มกดเพื่อวัดระยะเวลาในการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน ข้อมูล ทั้งหมดที่ได้จากการเก็บข้อมูลจะถูกส่งขึ้นระบบ Cloud ผ่านกระบวนการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลการวัด ทั้งหมดบนเว็บเซอร์วิส ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ตลอดเวลาเพื่อนำไปวางแผนเพิ่มผลผลิตหรือลดจำนวนของเสียในกระบวนการผลิต หลังจากที่ปรึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูล ที่ปรึกษาได้อธิบายและนำเสนอ แนวทางในการปรับปรุงให้กับผู้ประกอบการ โดยพบว่าในภาพรวมที่ได้ประเมินเครื่องจักร จำนวน 3 เครื่องต่อสถานประกอบการ และผู้ปฏิบัติงาน 3 คนต่อสถานประกอบการ นอกจากนี้ที่ปรึกษายังได้คัดเลือก 11 สถาน ประกอบการเพื่อศึกษา วางแผน และแนะนำสำหรับการปรับสายการผลิตอย่างน้อย 1 สายการผลิตให้อยู่ใน แนวทางของกระสวยลูกที่ 3 ที่ปรึกษาสามารถประเมินตามแนวทางที่ได้นำเสนอต่อผู้ประกอบการพบว่า สามารถช่วยให้สถานประกอบการประหยัดเงินได้ประมาณ 206.75 ล้านบาทต่อปี Thailand 4.0 is one of important policy of recent Thai government and the application of information technology has applied to increase the capability of manufacturing process. Ministry of Industry has defined ten groups of industry as new engine of growth for both First S-curve group and New S-curve group. Department of Industrial Promotion is the department to support and to develop small and medium enterprises and to drive department funds for SMEs. To achieve Thailand 4.0 “3 Stage Rocket Approach” is a tool used to develop digital technology for manufacturing process. Department of Industrial Promotion hires Thammasat University Research and Consultancy Institute to analyze and to develop technology and artificial invention to track & trace Machine Monitoring system and Craftsmanship Monitoring system in the establishments. The target groups of this study are small and medium enterprises with legal entity 81 businesses. Especially new engine growth is focused for both First S-curve and New S-curve in total 20 groups and all industrial groups related to provincial strategy. The target groups are in the area of central region, Eastern region and Bangkok. The period of inspection and investigation is from January 2020 to November 2020 in total 290 days. In this project there are 107 businesses interested and applied and 81 businesses are selected with the strong criteria including 56 businesses for visualize machine and 25 businesses for visualize craftsmanship. For the inspection and the investigation there are many sensors used in this project to serve the needs and the requirements of the businesses. The examples of those sensors are infrared counter sensor, current transformer sensor, video camera, closed-circuit television, temperature sensor, and push-button sensor. All collected data will be transferred to cloud system via Pocket WiFi and in parallel analyzed data will be shown through Web service as real time. The owner or corresponding person could check and assess all inspected activities in the process and could plan effectively to increase the products, to save overtime budget, and to reduce the losses. Moreover 10 more businesses have been selected to study and to plan for 3rd stage of Rocket Approach for at least one manufacturing line. Finally the overview assessment of this project shows that all 100 business could save the budget around 206.75 million-baht per year based on the proposed activities from consultants. |
|
กิจกรรมการส่งเสริม SMEs
การผลิตดิจิทัลด้วยจรวดสามลูก ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม |
|
รายงานวิจัย | |
Text | |
application/pdf | |
tha | |
เอกสารฉบับนี้สงวนสิทธิ์โดยผู้ให้ทุน ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ตัดต่อโดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร | |
บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงเอกสารนี้ได้ | |
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม | |
https://repository.turac.tu.ac.th/handle/6626133120/1021 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View no fulltext.doc ( 21.50 KB ) |
This item appears in the following Collection(s) |
|
Collections
|