ศึกษาแรงลมของโครงการสุขุมวิท 24 โดยการทดสอบในอุโมงค์ลม – การวิเคราะห์เพิ่มเติมสำหรับอาคาร B1
by วิโรจน์ บุญญภิญโญ; Boonyapinyo, Virote
ศึกษาแรงลมของโครงการสุขุมวิท 24 โดยการทดสอบในอุโมงค์ลม – การวิเคราะห์เพิ่มเติมสำหรับอาคาร B1 | |
WIND LOAD STUDY FOR SUKHUMVIT 24 PROJECT BY WIND TUNNEL TEST – ADDITIONAL ANALYSIS FOR BUILDING B1 | |
วิโรจน์ บุญญภิญโญ
Boonyapinyo, Virote |
|
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
2015 | |
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
รายงานฉบับนี้เป็นรายงานฉบับสุดท้ายเรื่อง การศึกษาแรงลมของโครงการอาคารสุขุมวิท 24 โดยการทดสอบในอุโมงค์ลม: การวัดหน่วยแรงลม วัตถุประสงค์ของการศึกษาแรงลมของโครงการอาคารสุขุมวิท 24 โดยการทดสอบในอุโมงค์ลม มีดังนี้ 1) การศึกษาแรงลมโดยรวมและการตอบสนองของอาคาร ด้วยวิธีการวัดแรงลมที่ฐานอาคารในอุโมงค์ลม เพื่อนำแรงลมไปออกแบบโครงสร้างหลักต้านทานแรงลม และคำนวณอัตราเร่งสูงสุดที่ยอดอาคารภายใต้แรงลม 2) ศึกษาแรงลมเฉพาะที่สำหรับออกแบบผนังภายนอกอาคาร ด้วยวิธีวัดหน่วยแรงลมของแบบจำลองในอุโมงค์ลม เพื่อนำหน่วยแรงลมไปออกแบบกระจกรอบอาคารตามหน่วยแรงลมที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งทำให้ปลอดภัย และประหยัด กล่าวคือบริเวณที่มีหน่วยแรงลมมากก็เสริมกระจกให้มีความหนามากขึ้น ส่วนบริเวณที่มีหน่วยแรงลมน้อยก็ใช้กระจกที่บางลงได้ อาคารกรุงศรี เพลินจิต ที่ศึกษาเป็นอาคารสูง 50 ชั้น สูงเทียบเท่า 183 ม. กว้าง 14.77 ม. ลึก 43.36 ม. อาคารตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 24 อาคารที่ศึกษาต้องมีการทดสอบต้านทานแรงลม เนื่องจากมีลักษณะดังนี้ 1) อาคารที่มีความสูงและอ่อนตัวมาก 2) อาคารที่มีรูปทรงไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นสี่เหลี่ยม และ 3) สภาพแวดล้อมของอาคารที่ตั้งอยู่ในที่มีอาคารสูงหนาแน่น ลักษณะดังกล่าวข้างต้น ทำให้หน่วยแรงลมที่เกิดขึ้นจริงจะแตกต่างจากการคำนวณโดยใช้มาตรฐานการคำนวณ ดังนั้นการศึกษาแรงลมโดยการทดสอบในอุโมงค์ จึงมีความจำเป็นเพื่อให้ได้อาคารที่แข็งแรง ปลอดภัย และประหยัด เนื่องจากการทดสอบจะได้แรงลมที่กระทำกับรูปทรงอาคารจริงได้อย่างถูกต้อง ภายใต้สภาพแวดล้อมของอาคารจริง รวมถึงการคำนวณการสั่นไหวของอาคารภายใต้แรงลมได้อย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้ผู้ใช้อาคารรู้สึกไม่สบายหรือเกิดอาการวิงเวียน วิธีการทดสอบในอุโมงค์ การทดสอบอาคารสูงทำโดย การสร้างแบบจำลองอาคารที่ทดสอบให้เหมือนจริง และสร้างแบบจำลองสภาพแวดล้อมอาคารที่เหมือนจริงในรัศมี 400 ม. ในอัตราการย่อส่วน 1 ต่อ 400 แล้วนำแบบจำลองมาวางบนพื้นโต๊ะหมุนในอุโมงค์ลม ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ม. พื้นโต๊ะหมุนนี้สามารถหมุนได้ 360 องศา หลังจากนั้นเปิดลมแล้ววัดแรงลมที่กระทำกับอาคารโดยรวมที่ฐานอาคาร หรือวัดหน่วยแรงลมเฉพาะที่ที่ผนังอาคาร การทดสอบจะทำการหมุนพื้นโต๊ะหมุนครั้งละ 10 องศา เพื่อศึกษาแรงลมที่กระทำกับอาคารทุกทิศทาง การจำลองลักษณะลมในอุโมงค์ลม ให้เหมือนลักษณะลมในสภาพภูมิประเทศจริง ต้องจำลองลักษณะลมดังนี้ 1. ลักษณะความเร็วลมเฉลี่ยที่แปรเปลี่ยนตามความสูงจากพื้นดิน 2. ลักษณะลมที่แปรปรวน (หรือผันผวน) ในรูปของความเข้มข้นของความแปรปรวน ที่แปรเปลี่ยนตามความสูงจากพื้นดิน และ 3. ค่าสเปกตรัมลมที่แปรปรวน การจำลองลักษณะลมได้อ้างอิงตามมาตรฐาน ASCE 7 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ตามมาตรฐานการคำนวณแรงลมและการตอบสนองของอาคาร ของกรมโยธาธิการและผังเมือง มยผ. 1311-50 ความเร็วลมอ้างอิงสำหรับอาคารที่ศึกษา คือค่าความเร็วลมเฉลี่ยในช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ที่ความสูง 10 เมตรจากพื้นดิน ในสภาพภูมิประเทศโล่ง สำหรับคาบเวลากลับ 50 ปี มีค่าเท่ากับ 25 เมตรต่อวินาที และค่าประกอบไต้ฝุ่นมีค่าเท่ากับ 1.0 ดังนั้นความเร็วลมอ้างอิงที่ยอดอาคารสูงเทียบเท่า 183 ม. มีค่าเท่ากับ 30.32 เมตรต่อวินาที ในสภาพภูมิประเทศแบบเมืองใหญ่ ผลการศึกษาแรงลมเฉพาะที่สำหรับออกแบบผนังภายนอกอาคาร พบว่าหน่วยแรงดันสูงสุดโดยทั่วไปอยู่ในช่วง 750 to 1,500 N/m2 (0.75 kPa to 1.50 kPa) หน่วยแรงดูดสูงสุดโดยทั่วไปอยู่ในช่วง 1,000 to 2,000 N/m2 (1.00 kPa to 2.00 kPa) และบริเวณขอบผนังอยู่ในช่วง 2,000 to 3,000 N/m2 (2.00 kPa to 3.00 kPa) นอกจากนี้พบว่าหน่วยแรงดันสูงสุดของอาคารเท่ากับ 1,500 N/m2 ที่ตำแหน่งจุดวัด M33 ที่ความสูง 135.46 ม. และหน่วยแรงดูดสูงสุดของอาคารเท่ากับ 2,911 N/m2 ที่ตำแหน่งจุดวัด M21 ที่ความสูง 135.46 ม. เมื่อเปรียบเทียบหน่วยแรงลมที่ได้จากผลการทดสอบกับมาตรฐาน ASCE 7 พบว่า 1.หน่วยแรงดันสูงสุดที่ได้จากผลการทดสอบโดยทั่วไป มีค่าสอดคล้องมากเมื่อเทียบกับค่าที่ได้จากมาตรฐาน ASCE 7 2. หน่วยแรงดูดสูงสุดที่ได้จากผลการทดสอบโดยทั่วไป มีค่าสอดคล้องพอสมควร เมื่อเทียบกับค่าที่ได้จากมาตรฐาน ASCE 7 หน่วยแรงดูดสูงสุดที่ได้จากผลการทดสอบ บางตำแหน่งของผนังรอบอาคาร มีค่ามากกว่าเล็กน้อยถึงปานกลาง เมื่อเทียบกับมาตรฐาน ASCE 7 ค่าดังกล่าวเกิดจากผลกระทบของอาคารข้างเคียง ดังนั้นการศึกษาแรงลมของอาคารโครงการโดยการทดสอบในอุโมงค์ จึงมีความจำเป็น เพื่อให้ได้อาคารที่แข็งแรง ปลอดภัย ประหยัด และลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจากผลของแรงลม |
|
Wind Load
สุขุมวิท 24 อุโมงค์ลม |
|
บทความ | |
Text | |
application/pdf | |
tha | |
เอกสารฉบับนี้สงวนสิทธิ์โดยสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ตัดต่อโดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร | |
สงวนสิทธิ์ในการเข้าถึงเฉพาะบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
Proud Residences Co., Ltd. | |
https://repository.turac.tu.ac.th/handle/6626133120/202 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View no-fulltext.doc ( 21.50 KB ) |
This item appears in the following Collection(s) |
|
Collections
|