จ้างที่ปรึกษาการจัดทำข้อเสนอแนวทางการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่กรรมสิทธิ์ (Privately Protected Areas : PPA และ Private-Land Conservation Areas : PLCA)
by สุเพชร จิรขจรกุล
จ้างที่ปรึกษาการจัดทำข้อเสนอแนวทางการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่กรรมสิทธิ์ (Privately Protected Areas : PPA และ Private-Land Conservation Areas : PLCA) | |
Proposals for Conservation and Utilization of Biodiversity in Privately Protected Area (PPA) and Private-Land Conservation Area (PLCA) | |
สุเพชร จิรขจรกุล | |
2022-12-06 | |
สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
|
โครงการจัดทำข้อเสนอแนวทางการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ กรรมสิทธิ์ ซึ่งเป็นส่วนในการสนับสนุนประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีการศึกษาวิจัยในด้านแรงจูงใจ กลไกด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน กลไกด้านสังคม วัฒนธรรม และสุขภาพ กลไกด้านสิ่งแวดล้อม และกลไกด้านกฎหมาย สนับสนุนต่อการขยายตัวการใช้ประโยชน์พื้นที่กรรมสิทธิ์ในเชิง อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพตามนโยบายสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ สพภ. ในการส่งเสริมให้ประชาชนอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ มีวิสาหกิจชุมชน 16 แห่งที่กระจายพื้นที่ทั่วจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกไผ่มีทั้งในรูปแบบ สปก. คทช. หรือ นส4
โดยมีวิสาหกิจชุมชนวัดโป่งคำ ต.ดู่พงษ์ อ.สันติสุข จ.น่าน เป็นศูนย์กลางของการประสานงานพื้นที่ ซึ่งเข้าเกณฑ์ 6 ประเด็นในการคัดเลือกพื้นที่นำร่อง ได้แก่ (1) ศักยภาพด้านทรัพยากรความหลากหลายทาง ชีวภาพ (Biodiversity) (2) ศักยภาพทางกายภาพของพื้นที่ (Geographical) (3) ศักยภาพและความพร้อมทางเศรษฐกิจและการพาณิชย์ ผลิตภัณฑ์และบริการ (Product and Service) (4) ศักยภาพด้านบุคลากร (People) (5) ศักยภาพด้านการจัดการและการมีส่วนร่วม (Management and Cooperation) และ (6) ศักยภาพด้านเทคโนโลยี (Technology)
พื้นที่นำร่องมีขนาดพื้นที่โดยรวมกว่า 20,000 ไร่ ได้ดำเนินการปลูกป่าไผ่ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ใน ทางการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ในทางผลิตภัณฑ์ อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) ตาม พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ESG) รวมถึงการพัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) และนำแนวคิดด้านการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่กรรมสิทธิ์อยู่บนพื้นฐานของกรอบการพัฒนาและอนุรักษ์เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ ร่วมกับ ทฤษฎีประสิทธิภาพแบบพาเรโต (Pareto Efficiency) เพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้และการตัดสินใจด้านการลงทุนให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด (Pareto Optimally) นำไปสู่การระดมทุนในระดับสากล ทั้งในรูปแบบ Foreign Direct Investment (FDI) และ crowdfunding เพื่อเชื่อมโยงกับสินทรัพย์ที่มีตัวตน และสินทรัพย์ดิจิทัล นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบริการและมูลค่าโดยรวมของโครงการส่งเสริมการปลูกไผ่เพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการใช้ผลิตภัณฑ์จากไผ่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานชีวภาพของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนจังหวัดน่าน เกิดการพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนกิจกรรมเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) ที่ดำเนินธุรกิจที่มีผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อให้ได้รับตรารับรองผลิตภัณฑ์และบริการความหลากหลายทางชีวภาพตามมาตรฐาน ISO/TS331 ในอนาคตได้ |
|
การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่กรรมสิทธิ์
ความหลากหลายทางชีวภาพ วิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) |
|
รายงานวิจัย | |
Text | |
application/pdf | |
tha | |
เอกสารฉบับนี้สงวนสิทธิ์โดยผู้ให้ทุน ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ตัดต่อโดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร | |
บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงเอกสารนี้ได้ | |
สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), สพภ. | |
https://repository.turac.tu.ac.th/handle/6626133120/1140 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View No fulltext.docx ( 12.11 KB ) |
This item appears in the following Collection(s) |
|
Collections
|