พัฒนาระบบเครือข่ายและรักษาความปลอดภัย (ระยะที่2)
by ทวีศักดิ์ กิจกาญจนารัตน์; วชิรา พรหมสาขา ณ สกลนคร; ชัยวัฒน์ อุตตมากร; วศินี หนุนภักดี
พัฒนาระบบเครือข่ายและรักษาความปลอดภัย (ระยะที่2) | |
Development of Network and Security Systems (Phase 2) | |
ทวีศักดิ์ กิจกาญจนารัตน์
วชิรา พรหมสาขา ณ สกลนคร ชัยวัฒน์ อุตตมากร วศินี หนุนภักดี |
|
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
2016 | |
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
เนื่องจากกรมทางหลวงชนบทได้ใช้อุปกรณ์ระบบเครือข่ายและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยหลักที่มีอยู่ในปัจจุบันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 5 ปี และอุปกรณ์ดังกล่าวเริ่มเสื่อมสภาพและเกิดขัดข้องบ่อยครั้ง ทำให้ไม่สามารถให้บริการระบบงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเท่าที่ควร อีกทั้งในปัจจุบันมาตรฐานความเร็วของอุปกรณ์เครือข่ายได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นความเร็ว 10 Gbps ดังนั้นเพื่อเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของกรมทางหลวงชนบทให้เป็นมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถให้บริการระบบงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพการให้บริการที่ดี ทางกรมมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ
ให้มีความเหมาะสมต่อความต้องการและความจำเป็นในการใช้งานในปัจจุบัน นอกจากนี้ การมีใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากจากบุคคลหรือซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้แล้วการดำเนินงานปกติของผู้ปฏิบัติงานในองค์กรอาจคุกคามระบบเครือข่ายโดยไม่เจตนาได้ เช่นการเปิดอีเมล์ที่ติดไวรัสอาจทำให้ระบบเครือข่ายทำงานช้าลง เป็นต้น การป้องกันความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจึงมีความจำเป็นเพื่อปกป้องระบบให้ปลอดภัย ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ ภัยคุกคามเทคโนโลยีสารสนเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา การใช้งานอุปกรณ์ป้องกันภัยคุกคามจำเป็นต้องมีความทันสมัยเป็นปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้งานมานานและเสื่อมสภาพเพื่อยกระดับความสามารถในการปกป้องข้อมูล การดำเนินโครงการนี้จะทำให้เกิดผลดังนี้ 1.) มีระบบการตรวจสอบและป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์และข้อมูลที่ไม่พึงประสงค์ 2.) มีระบบการปกป้องข้อมูลที่เป็นมาตรฐานสากล 3.) เว็บแอพพลิเคชั่นสามารถให้บริการผู้ใช้ได้อย่างมีเสถียรภาพ 4.) ผู้บริหารระบบงานมีความสะดวกในการดูแลและตรวจสอบความปลอดภัยอุปกรณ์ป้องกันการบุกรุกเว็บไซต์ Web Application Firewall ช่วยในการปกป้องข้อมูลซึ่งถือทรัพย์สินที่สำคัญ จากการโจมตีของมัลแวร์ การโจมตีแบบ DoS และภัยคุกคามแบบอื่น ๆ ที่เข้าสู่เครือข่ายด้วยโปรโตคอล HTTP/HTTPS ด้วยความสามารถวิเคราะห์การเข้าใช้งานเว็บแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญ และสามารถเรียนรู้การพฤติกรรมการเข้าใช้งานแบบปกติหรือแบบเป็นภัยคุกคามได้อัตโนมัติ ตรวจสอบป้องกันการเข้าถึงระบบงาน นอกจากการป้องกันการบุกรุกเว็บไซต์แล้ว การป้องกันการบุกรุกฐานข้อมูลก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน แม้ว่าเว็บไซต์ได้รับการปกป้อง แต่การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นอาจมีข้อผิดพลาดทำให้เกิดช่องโหว่ต่อการโจมตีได้ รวมถึงความสามารถการเข้าถึงฐานข้อมูลของบุคลากรในองค์กร การปฏิบัติงานที่ผิดพลาด อาจนำความเสียหายให้กับฐานข้อมูลได้ อุปกรณ์ป้องกันการบุกรุกฐานข้อมูลมีความสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างของฐานข้อมูล วิเคราะห์การเข้าถึงระบบฐานข้อมูล และแจ้งเตือน |
|
ระบบเครือข่ายและรักษาความปลอดภัย
เทคโนโลยีสารสนเทศ |
|
บทความ | |
Text | |
application/pdf | |
tha | |
เอกสารฉบับนี้สงวนสิทธิ์โดยสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ตัดต่อโดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร | |
สงวนสิทธิ์ในการเข้าถึงเฉพาะบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
กรมทางหลวงชนบท | |
https://repository.turac.tu.ac.th/handle/6626133120/474 |
Files in this item (CONTENT) |
|
View no fulltext.doc ( 21.50 KB ) |
This item appears in the following Collection(s) |
|
Collections
|