จัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาและปรับปรุงกฎหมาย Product Safety ประจำปีงบประมาณ 2556
by อนันต์ จันทรโอภากร
จัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาและปรับปรุงกฎหมาย Product Safety ประจำปีงบประมาณ 2556 | |
Hiring a Consultant for Improving and Developing the Product Safety Law in the Fiscal Year 2013 | |
อนันต์ จันทรโอภากร | |
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
2013 | |
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
จากข่าวสารที่ปรากฏในสื่อต่าง ๆ ในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีสินค้าจำนวนมากที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อสุขภาพ อนามัย ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน สินค้าที่เป็นต้นเหตุจำนวนหนึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าของไทยบางราย แม้พระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อยมาจะได้บัญญัติว่า ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้า แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องก็เป็นกฎหมายที่เน้นการกำกับดูแลสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น กฎหมายอาหาร กฎหมายยา และกฎหมายเครื่องสำอาง เป็นต้น ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ นอกจากจะเป็นกฎหมายมุ่งเน้นเฉพาะสินค้าเฉพาะอย่างแล้ว ยังขาดรายละเอียดเกี่ยวกับการกำกับดูแลความปลอดภัยของสินค้าภายหลังจากที่มีการขายหรือนำสินค้าออกวางตลาดแล้ว
กฎหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แม้จะทำหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคได้ระดับหนึ่ง แต่ก็เป็นการมุ่งเน้นที่มาตรฐานทางเทคนิคของสินค้าแต่ละชนิดเป็นสำคัญ เมื่อมีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น มาตรฐานที่กฎหมายกำหนดก็ล้าสมัย ตราบเท่าที่ยังมิได้แก้ไขมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่นำออกขายหรือวางตลาดก็จะกลายเป็นสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และการกำหนดมาตรฐานของสินค้าภายใต้กฎหมายฉบับนี้ก็มีลักษณะของการกำหนดเป็นรายสินค้าไป
พระราชบัญญัติ ความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชบัญญัติ วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ ก็เป็นกฎหมายที่นำมาใช้เมื่อมีการฟ้องร้องเยียวยาความเสียหายแก่ผู้บริโภคเมื่อผู้ได้รับความเสียหายจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย หรืออีกนัยหนึ่งคือเป็นกฎหมายที่นำมาใช้เมื่อมีการฟ้องร้องคดีเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
กฎหมายเกี่ยวกับการดูแลสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าของผู้บริโภคที่มีอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นลักษณะของการบัญญัติกฎหมายตามแนวทางเก่าหรือแนวทางดั้งเดิม (Old Approach) กล่าวคือ ๑. เป็นกฎหมายที่ดูแลความปลอดภัยของสินค้าเป็นการเฉพาะอย่าง เฉพาะชนิด และเน้นการฟ้องร้องคดีระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจ ๒. มาตรการในการกำกับดูแลความปลอดภัยของสินค้าที่มีอยู่ก็มุ่งเน้นที่มาตรการหรือเงื่อนไขก่อนการนำสินค้าออกวางตลาด ยังไม่มีกฎหมายที่กำหนดหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจในการกำกับดูแลความปลอดภัยของสินค้าอย่างเป็นกิจจะลักษณะภายหลังจากที่สินค้าได้ถูกนำออกวางตลาดแล้ว
๓. เป็นกฎหมายที่มุ่งเน้นที่การกำหนดมาตรฐานทางเทคนิคของสินค้าเป็นราย ๆ ไป ไม่มีกฎหมายที่กำหนดเป็นหลักการทั่วไปว่าสินค้าที่ปลอดภัยเท่านั้นจึงจะนำออกวางตลาดได้ จากการศึกษากฎหมายของสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา พบว่าได้มีการพัฒนากฎหมายในเรื่องนี้ตามแนวทางใหม่ หรือ New Approach กล่าวคือ เป็นกฎหมายที่ครอบคลุมสินค้าผู้บริโภคทุกชนิด โดยการวางข้อกำหนดทั่วไปว่าสินค้าที่ขายหรือนำออกวางตลาดนั้นจะต้องเป็นสินค้าที่ปลอดภัย จึงมีลักษณะเป็นกฎหมายกลางหรือกฎหมายทั่วไปที่ใช้ในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคที่จะได้รับความปลอดภัยจากสินค้าอย่างกว้างขวาง สามารถอุดช่องว่างที่เกิดขึ้นจากกฎหมายที่ใช้กับสินค้าเฉพาะอย่าง (Vertical legislations) ที่มีอยู่ได้อย่างดี นอกจากนี้กฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในประเทศเหล่านี้ยังอยู่บนพื้นฐานของหลักการในการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับสูง (Principle of high level of consumer protection) ด้วยการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้สั่งหรือนำเข้าสินค้า ผู้จัดจำหน่าย (ผู้ค้าส่ง) และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่และบทบาทในการกำกับดูแลความปลอดภัยของสินค้า มีมาตรการภายหลังการขายหรือวางตลาดสินค้าอย่างชัดเจน เช่น การสุ่มตรวจ การตรวจและพิสูจน์ความปลอดภัยของสินค้า การเรียกคืนสินค้า หรือการเก็บสินค้าออกจากตลาด เป็นต้น มีระบบเผยแพร่ข้อมูล และระบบการแจ้งเตือนภัยที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ผู้วิจัยจึงเสนอให้มีการปรับปรุงกฎหมายในเรื่องนี้ของประเทศไทยให้เป็นไปตามแนวทางในการพัฒนากฎหมายคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าตามแนวทางใหม่นี้ (New Approach) และตามหลักการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับสูง (Principle of high level of consumer protection) และได้ยกร่างพระราชบัญญัติ การกำกับดูแลความปลอดภัยชองสินค้า พ.ศ….เสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อพิจารณาดำเนินการปรับปรุงหรือพัฒนากฎหมายของประเทศไทย ต่อไป โดยเชื่อมั่นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะสามารถรองรับการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ได้อย่างเหมาะสมเช่นกัน |
|
ปรับปรุงกฎหมาย
Product Safety ความปลอดภัยของสินค้า มาตรฐานของสินค้า |
|
บทความ | |
Text | |
application/pdf | |
tha | |
เอกสารฉบับนี้สงวนสิทธิ์โดยสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ตัดต่อโดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร | |
สงวนสิทธิ์ในการเข้าถึงเฉพาะบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค | |
https://repository.turac.tu.ac.th/handle/6626133120/53 |
This item appears in the following Collection(s) |
|
กลุ่มข้อมูล
|