โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งองค์กรทางธุรกิจเพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

Abstract

Geo-Informatics and Space Technology Development Agency (Public Organization) or GISTDA has missions to provide information service, geo-informatics information and information obtain from Remote Sensing Satellite. This mission is according to “Two-Pronged Grand Strategy”, which aims for both societal benefit and financial benefit that require a business network alliance with both domestic organization and international organization by being their business agent, building THEOS satellite ground station in aboards and provide total solution service. All current GISTDA’s operation returns immense business value to the organization even through mission’s achievement is still far to claim due to various causes. One solution is to enchance organization more flexibility arranges its management to real business form and let organization to achieve mission goal sustainable. In this project, we present GISTDA a new appropriate organization management which harmonized with GISTDA current service, organization regulation and further service upgrade. The suggestion comes with 3 phases of organization changing: Phase 1 (Initial Phase) : build new business unit which is core to new form of organization management i.e. “Application Team” and should have a meeting between directors and senior officers in organization to adjust some organization regulation with support the operation of this business unit. Building more MOU/agreement with business alliances (both domestic and international organization) to exchange technology and know-how is also recommended in this phase. Phase 2 (Short-Middle Term) : co-operate with allied education institute to build “Satellite Information Value Creation Institute” which aim for business purpose and would be marketing arm for GISTDA. Main service of this institute would be creating more value of satellite information for rice supply chain and para rubble supply chain which are an important root of country development.

Phase 3 (Middle-Long Term) : purpose of this phase is to support further mission of GISTDA in the future especially for the project “Space Krenovation Park, SKP”which is important for Thailand to improve space technology and geo-infomatics system in an incoming future. In this phase, GISTDA should propose Government Cabinet to revise GISTDA’s Royal Decree, provide GISTDA more authority about organization’s income as same as National Science and Technology Development Agency (NSTDA) or Banphaeo Hospital (public organization) or The Gem and Jewelry Institute of Thailand (public organization) which capable to operate huge project as the same scale as SKP by themselves.

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. ดำเนินภารกิจ ในการบริการข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรและข้อมูลภูมิสารสนเทศ ตามแนวทางยุทธศาสตร์หลัก 2 ด้าน (Two-Pronged Grand Strategy) ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การดำเนินการเพื่อประโยชน์ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ (Societal Benefits) และยุทธศาสตร์การดำเนินการทางธุรกิจ เพื่อสร้างรายได้ (Financial Benefits) โดยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเชิงพันธมิตรทางธุรกิจกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ ผ่านช่องทางการเป็นผู้แทนจำหน่ายข้อมูล และการตั้งสถานีรับสัญญาณดาวเทียมไทยโชตในต่างประเทศ และการให้บริการแบบครบวงจร (Total Solution) จากภารกิจคู่ขนานดังกล่าวของ สทอภ. นั้นทำให้เกิดการดำเนินงานทางธุรกิจที่สามารถสร้างมูลค่าที่หลากหลาย แต่การดำเนินงานดังกล่าวยังไม่ประสบผลสำเร็จตามที่ได้วางเป้าหมายไว้ อันเกิดจากปัจจัยหลายประการ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานทางธุรกิจของ สทอภ. เกิดความคล่องตัว มีการบริหารจัดการในลักษณะขององค์กรธุรกิจที่แท้จริง อันจะสร้างรายได้ให้กับ สทอภ. อย่างยั่งยืนเป็นไปตามเป้าหมาย คณะทำงานได้นำเสนอรูปแบบการบริหารจัดการองค์กรธุรกิจใหม่ ที่มีความเหมาะสมกับ สทอภ. ทั้งในด้านโครงสร้างการบริการ ด้านกฎหมาย และรูปแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยคณะทำงานได้นำเสนอแนวทางการจัดตั้งองค์กรธุรกิจใหม่ เป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน จัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ (Business Unit, B.U.) อาจใช้ชื่อว่า Application Team เพื่อปรับระเบียบข้อบังคับ พร้อมประกาศใช้ให้สอดคล้องกับขอบเขตงานใหม่ และจัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการวิจัยและพัฒนาบุคลากรร่วมกัน ระยะสั้น-กลาง ร่วมกับสถาบันการศึกษาพันธมิตร จัดตั้งสถาบัน “สถาบันเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากภาพถ่ายดาวเทียม” เพื่อให้สถาบันฯ ดังกล่าวเป็นองค์กรที่ตอบสนองในเชิงธุรกิจ และเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนพัฒนาธุรกิจและสร้างเครือข่ายการตลาด (Marketing Arm) ให้แก่ สทอภ. โดยเน้นไปยังการเพิ่มมูลค่าในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์ข้าวและยางพาราที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ

ระยะกลาง-ยาว เพื่อรองรับพันธกิจและทิศทางการเติบโตของ สทอภ. ในอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (Space Krenovation Park, SKP) ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศของไทยในอนาคต สทอภ. ควรนำเสนอ ครม. เพื่อแก้ไข พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) พ.ศ.2543 ให้เป็นลักษณะเดียวกันกับองค์การมหาชนที่จัดตั้งโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งที่ให้ขอบเขตอำนาจเพิ่มเติมในการสร้างรายได้แก่องค์กร อาทิ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. หรือ NSTDA) โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) หรือ พระราชกฤษฎีกาสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อรองรับภารกิจขนาดใหญ่ดังกล่าวได้อย่างคล่องตัว