ประสานงานจัดการความรู้งานวิจัยเพื่อการใช้ประโยชน์ในเชิงนโยบายตามร่างกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13

Abstract

ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยในทางนิติบัญญัติและการบริหารราชการแผ่นดินยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน้อย ทั้งนี้อาจเกิดจากสาเหตุบางประการ เช่น ขาดหน่วยงานที่เชื่อมต่อระหว่างภาควิชาการและภาคนโยบาย ทำให้องค์ความรู้จากงานวิจัยไม่ได้ถูกจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงนโยบาย โดยเฉพาะในการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สคช.) อยู่ในระหว่างการระดมความเห็นร่วมกับภาคีการพัฒนา ในระหว่างกระบวนการจัดทำกรอบพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) ในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องต้นปี 2566 ซึ่งในเบื้องต้นได้กำหนด 13 หมุดหมาย ในช่วงระยะเวลา 5 ปีของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เพื่อให้การขับเคลื่อนเป้าหมายการพลิกโฉมประเทศสู่การเป็นเศรษฐกิจสร้างคุณค่าสังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืนไปสู่การปฏิบัติที่มีทิศทางชัดเจนและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม “โครงการประสานงานจัดการความรู้งานวิจัยเพื่อการใช้ประโยชน์ในเชิงนโยบายตามกรอบ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13” มุ่งจะดำเนินงานโดยเน้นสร้างกลไกและกระบวนการจัดการความรู้จากงานวิจัยเพื่อให้องค์ความร์จากงานวิจัยที่มีอยู่อย่างหลากหลายและกระจัดกระจายถูกรวบรวมอย่างเป็นระบบมีการสังเคราะห์หรือจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย รวมถึงการส่งต่อข้อเสนอเชิงนโยบายไปสู่หน่วยงานที่ใช้ประโยชน์นอกจากนี้ยังจะทำหน้าที่ในการพัฒนาความสามารถของบุคลากร วช. ในการพัฒนาโครงการวิจัยเชิงนโยบาย (Policy Research) การสังเคราะห์งานวิจัย ผ่านการกำหนดและจัดลำดับความสำคัญประเด็นยุทธศาสตร์ภายใต้ 13 หมุดหมายในกรอบร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 รวบรวมองค์ความรู้จากงานวิจัยที่มีอยู่ในแต่ละประเด็นหมุดหมายที่คัดเลือก (เช่น จากโครงการวิจัยจากฐานข้อมูล NRLLS ของ วช. และแหล่งอื่น ๆ) รวมทั้งระบุช่องว่างของความรู้เสนอต่อ วช. และจัดทำบทสรุปเชิงนโยบาย (Policy Brief) หรือเอกสารความรู้ในลักษณะอื่น ๆ เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามช่องทางต่าง ๆ